สำหรับคนที่อยากดูอ่อนเยาว์ ย้อนวัย ต้องรู้ !

สำหรับคนที่อยากดูอ่อนเยาว์ ย้อนวัย ต้องรู้ !

หากเอ่ยถึงหน้าอ่อนเยาว์ ดูเด็กกว่าวัย หมอคิดว่าคงเป็นความใฝ่ฝันของทุกคน สำหรับเบื้องต้นก็ต้อง พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆ บวกกับบำรุงผิวอยู่สม่ำเสมอ ทำตัวเองให้มีความสุข แต่ปัจจุบันมันคงยังไม่มากพอ วันนี้หมอเลยยกตัวอย่าง ที่ทำแล้วใบหน้าดูอ่อนเยาว์ 4 วิธี มาดูกันว่าแต่ละคนเหมาะกับข้อไหนบ้าง


1.#การฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน ( Botulinum Toxin ) หรือที่ทุกคนเรียกติดปากว่า ฉีดโบท็อกซ์ Botox แต่จริงๆแล้วคำว่าโบท็อกซ์เป็นชื่อทางการค้าของโบทูลินั่มจากอเมริกา การฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการลดริ้วรอย และ ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แค่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ สถานที่ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เหมาะสำหรับคนที่ชอบแสดงออกทางสีหน้า เช่น หยีตา ขมวดคิ้ว หรือฉีดลดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียว ฤทธิ์ของ Botox จะค่อย ๆ สลายไปในระยะเวลา 4-6 เดือนครับ


2.#การฉีดฟิลเลอร์ Filler หรือที่เรียกว่า สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid สาเหตุหลักที่หลายคนยังไม่รู้ ต้นเหตุที่ทำให้หน้าดูร่วงโรยคืออาการกระดูกใบหน้ากร่อน ซึ่งจะเริ่มเกิดในคนที่อายุ 30 ขึ้นไป สังเกตได้เช่นบริเวณใต้ตาที่จะดูลึก ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย ล้า หรือใต้ตาคล้ำ เหมือนอดนอนไม่สดใส แก้มตอบ ขมับหาย การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวหน้าแทนกระดูกที่กร่อนลง ไขมันที่ฟ่อไป นี่คือสาเหตุนึงที่หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ตั้งแต่ปัญหายังไม่เยอะเพื่อผลลัพท์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าที่คงความอ่อนเยาว์ไว้เสมอ ฟิลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐาน อย. จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบริเวณที่ฉีดแล้วจึงค่อยๆสลายไป


3.#การทำUltheraหรือHifu เป็นคลื่น focus ultrasound ที่ลงลึกถึงชั้น SMAS มีความลึกถึง 3 ระดับชั้น นอกจากยกกระชับผิวแล้วยังช่วยให้ริ้วรอยดูจางลง และผิวดูเนียนขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุด ที่แก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีแผลเย็บ ซึ่งเหมาะกันกลุ่มคนที่มีความหย่อนคล้อยไม่มาก จะอยู่ได้ 6-12 เดือน ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันของเเต่ละคน


4.#การผ่าตัดดึงหน้า เมื่ออายุมากขึ้น จะมีการคล้อยยานของกล้ามเนื้อ SMAS ทำให้เกิดเป็นริ้วรอย และเกิดการหย่อนคล้อย เช่น แก้มคล้อย ร่องแก้มชัด ร่องน้ำหมากเยอะขึ้น คางเป็นสองชั้น เหนียงจะเห็นชัดขึ้น การดึงหน้าของหมอจะไม่ได้แค่ดึง ตัดและเย็บ แต่หมอจะต้องดูถึงโครงสร้างของใบหน้า ว่าต้องเลาะหรือเก็บส่วนไหนบ้าง โดยการเลาะ กล้ามเนื้อเย็บชั้น SMAS ให้ตึงกระชับ ตรงกับความต้องการมากที่สุดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาอ่อนเยาว์แต่ยังคงเป็นธรรมชาติ ส่วนผิวหน้าจะคงสภาพความเต่งตึงเอาไว้ได้นานแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหน้าของแต่ละท่าน โดยเฉลี่ยจะคงอยู่ได้นาน 5 ปีขึ้นไป แต่ใครที่ดูแลผิวหน้าดีๆ อาจอยู่ได้นานเป็น 10 ปีครับ


แต่ไม่ว่าจะวิธีไหน ก็จะมีทั้งข้อดีข้อเสียดังนั้นก็ควรศึกษาหาข้อมูลกันให้ดีๆ นะครับ เพราะใช่ว่า ทุก 4 วิธีนี้ทุกคนจะทำได้ ถ้าจะให้ดีแนะนำปรึกษา แพทย์ผู้เชียวชาญกันดูนะครับ เพราะจะดูอ่อนเยาว์ทั้งที่ จะต้องปลอดภัยด้วยครับ..

Leave a reply