อ่านสักนิด...สิ่งที่คุณอาจยังไม่รู้ก่อนตัดสินใจ "ดึงหน้า Face Lift"
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังเราต้องเหี่ยวและคล้อย จากประสบการณ์ที่หมอได้เจอกันไข้มากหน้าหลายตา ถึงแม้จะอายุใกล้เคียงกันแต่บางคนก็มีสภาพผิวหน้าที่แตกต่างกันไป อย่างในกลุ่มคนอายุ 35 – 40 ปีขึ้นไป โดยธรรมชาติกระบวนการสร้าง Elastin และ Collagen จะเริ่มน้อยลง เมื่อน้อยลงทำให้ใบหน้าเริ่มคล้อย วิธีชะลอร่องรอยแห่งวัย ด้วยการซ่อมแซมและสร้างสารต่างๆ เพื่อยืดอายุใบหน้าให้ตึงกระชับ ไม่ว่าจะเป็นการทานวิตามิน อาหารเสริม การฉีดสารBotulinum toxin A (ที่เรียกติดปากกันว่า โบท๊อก) Filler (ฟิลเลอร์) ร้อยไหม และอีกหลาย ๆ หัตถการ แต่ใช่ว่าสิ่งที่คนอื่นทำแล้วดี เราทำแล้วจะออกมาดีเหมือนกัน สาเหตุขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น การใช้ชัวิตประจำวัน กรรมพันธุ์ หากทำมาทั้งหมดแล้วยังไม่ตอบโจทย์ของตัวเราในการแก้จุดหย่อนคล้อย ขั้นสุดท้ายหมอจะแนะนำให้ “ผ่าตัดดึงหน้า Face Lift”
ผ่าตัดดึงหน้า Face Lift ปัญหาโครงสร้างและรูปหน้าของแต่ละกันก็ต่างกัน คำถามและปัญหาที่หมอได้เจอก็จะต่างกันไป
- อายุยังน้อย แต่อยากดึงหน้าเพราะเคยตัดกราม กรอโหนก ทำได้ไหม?
- เคยดึงหน้ามาแล้วอยากแก้แผลเก่าเพราะเห็นชัด
- รู้ตำแหน่งแผลก่อนตัดสินใจผ่าตัด
- ปัญหาที่อาจเกิดได้หากโดนเส้นประสาทและตัดเลาะไม่เท่ากัน
- ดึงหน้าก็แก้ปัญหาไม่มีติ่งหูได้
อายุยังน้อย แต่อยากดึงหน้าเพราะเคยตัดกราม กรอโหนก ทำได้ไหม?
ช่วงวัยรุ่นนิยมหน้าเรียวเล็ก ศัลยกรรมตัดกราม กรอโหนก เลยนิยมที่นิยมในกลุ่มคนอายุ 20 ปลาย ๆ30 ต้นๆ การ ศัลยกรรมตัดกราม กรอโหนก ช่วยเรื่องหน้าเรียวเล็กจริงแต่ผลที่ตามมา คือ ความคล้อยของผิวหนังภายนอกหลังผ่าตัด ซึ่งหมอจะบอกคนไข้ก่อนเสมอถึงผลที่ตามมา เบื้องต้นหากอยากหน้าเรียวหมอจะแนะนำเป็นการฉีดสารBotulinum toxin A บริเวณกรามก่อน
ถ้าหากผ่าตัดมาแล้วผิวหน้าคล้อยมากจริงๆไม่สามารถแก้ไข ด้วยการทำทรีนเม้นอื่น การผ่าตัดดึงหน้าก็สามารถทำได้ แต่ต้องประเมินรูปหน้าเป็นส่วน ๆ อาจจะไม่ต้องดึงหน้า 3 ส่วนทั้งหมด เป็นการดึงหน้าเฉพาะส่วนแทน ซึ่งหากแก้ไขด้วยวิธีอื่นได้ในกลุ่มคนที่อายุไม่ถึง 25-40 ปี หมอจะไม่ค่อยแนะนำให้ดึงหน้า เพราะไม่คุ้มกับการมีรอยแผลและอาจต้องมีการดึงหน้าซ้ำอีกรอบในช่วงอายุประมาณ 45-50 ปี ขึ้นไป เพราะในช่วงอายุนี้ Elastin และ Collagen จะเริ่มน้อยลง
เคยดึงหน้ามาแล้วอยากแก้แผลเก่าเพราะเห็นชัด
เรื่องแก้แผลผ่าตัดเก่าเป็นอะไรที่หมอต้องพูดอธิบายกันยาว เพื่อจะได้ให้เข้าก่อนตัดสินใจผ่าตัด บางเคสแผลผ่าตัดสามารถผ่าตัดแก้ไขตัดรอยแผลเก่าออกได้หมด บางเคสสามารถใช้แผลผ่าตัดเดิมได้
ตัวอย่าง 1 กรณีแผลผ่าตัดอยู่เลยหน้าขอบใบหูไม่มาก หมอจะกล้ามเนื้อภายในถึงมุมปากให้สามารถยืดผิวหนังภายนอกได้มากสามารถตัดแผลเก่าทิ้งแล้วเย็บแผลใหม่บริเวณแนวขอบใบหูได้
ตัวอย่าง 2 แผลหลังใบหูมีการรั้งตึงมาก อาจจะมีอาการตึงบริเวณคอในช่วงแรกหลังการผ่าตัดต้องระมัดระวังการเอียงคอ ไม่หันเร็วและแรง แต่สามารถแก้ไขรอยแผลได้
รู้ตำแหน่งแผลก่อนตัดสินใจผ่าตัด
ตำแหน่งแผลที่ดี ควรมีการเย็บซ่อนไว้เพื่อได้มั่นใจใรการที่จะเปิดผม โดยเฉพาะในผู้ชายที่ตัดผมสั้น
ดึงหน้าส่วนบน ช่วยเรื่องหางตาตก ยกหางคิ้ว หมอเลยซ่อนแผลอยู่ตามแนวผมด้านในบริเวณขมับเหนือใบหู
ดึงหน้าส่วนกลาง แก้ปัญหาแก้มที่คล้อย ใบหน้าที่ไม่เท่ากัน เก็บช่วงแก้ม และร่องแก้ม แผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณหน้าหู แผลจะโค้งไปตามแนวร่องของหูด้านหน้า
ดึงหน้าส่วนล่าง แก้ปัญหา คอ เหนียง เก็บส่วนคอ แผลผ่าตัดผ่าตัดอยู่บริเวณหลังหูตามร่องหูอ้อมไปถึงด้านหลัง แนวไรผม
ปัญหาที่อาจเกิดได้หากโดนเส้นประสาทและตัดเลาะไม่เท่ากัน
อาการชาที่หน้า ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พบได้ปกติในการดึงหน้าเลยครับ เพราะว่าผิวหนังที่ถูกแยกขึ้นมาจากที่เดิมย่อม จะต้องใช้เวลาพอสมควรในการฟื้นตัวของเส้นประสาทที่เลี้ยงผิวหนังบ้าง โดยทั่วไปก็ประมาณ 2 เดือน อาการก็จะเป็นปกติ แต่หากโดนเส้นสำคัญอาการชาอาจคงอยู่ตลอด
หน้าเบี้ยว ในการผ่าตัดดึงหน้าต้องมีการประเมินรูปหน้าก่อนการผ่าตัดธรรมชาติของเรา 2 สิ่ง มักไม่เท่ากัน รูปหน้าคนเราก็เหมือนกันจะแตกต่างกันมามาก ถ้าไม่ถึงกับเอาไม้บรรทัดวัด แต่ในการผ่าตัดหมอใช้ไม้บรรทัดวัดจริง ๆ ครับ เพื่อดูในส่วนขั้นตอนการเลาะกล้ามเนื้อและตัดผิวหนังภายนอก ช่วยให้ประเมินในการตัดเลาะและเย็บได้เท่ากัน
ดึงหน้าก็แก้ปัญหาไม่มีติ่งหูได้
ในเคสที่เคยดึงหน้ามาแล้วแต่โดนยึดติ่งหูจนยาวทำให้ติ่งหูหาย ในการผ่าตัดดึงหน้าสามารถแก้ไขเย็บให้มีติ่งหูได้เคสของคนที่ไม่มีติ่งหูโดยธรรมชาติก็สามารถทำได้เช่นกัน
1 Comment
ปั้มไลค์
Like!! Great article post.Really thank you! Really Cool.
Leave a reply